ส่วนผสมทางการตลาด

จาก ChulaPedia

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ส่วนประสมการตลาด (Marketing Mix)

หมายถึง เครื่องมือต่าง ๆ ทาง การตลาดที่กิจการใช้เพื่อตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดเป้าหมาย ประกอบด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ เป็นปัจจัยที่กิจการสามารถควบคุมได้ กิจการธุรกิจจะต้องสร้างส่วนประสมการตลาดที่เหมาะสมในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ประกอบด้วย 4P คือ ผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) การจัดจำหน่าย (Place) และการส่งเสริมการตลาด (Promotion)


4 P’s ในยุคอดีต

1. Product คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้น

2. Price คือ การใช้การตลาดในการกำหนดราคาขาย

3. Place คือ การกำหนดสถานที่จัดจำหน่าย

4. Promotion คือ การวางแผนการส่งเสริมการขาย


ยุค Modern Trade

เป็นยุคที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร ในด้านการจัดเก็บข้อมูลและการเรียนรู้พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค ทำให้นักการตลาดเริ่มเปลี่ยนแนวคิดจาก 4 P’s มาเป็นแนวคิดสมัยใหม่ คือ 4 C’s


4 C’s ในยุค Modern Trade

1. Consumer คือ การศึกษาความต้องการของผู้บริโภค เพื่อที่จะผลิตสินค้าตามที่ผู้บริโภคต้องการ

2. Cost การกำหนดราคา โดยการนำเอาระบบ Logistic and Supply Chain มาใช้ ผู้ผลิตจะสามารถลดต้นทุนได้ถึง 10-15% ซึ่งก็คือการเพิ่มผลกำไรให้กับผู้ผลิต

3. Convenience คือ การมองว่าทำอย่างไรผู้บริโภคจึงจะสะดวกสบายในการซื้อสินค้า

4. Communication เพื่อการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบ เพราะการส่งเสริมการขายเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอสำหรับยุค Modern Trade


ยุคสื่อดิจิตอล (Digital Age)

Digital Age หรือ ยุคการสื่อสารแบบไร้พรมแดน เป็นการสื่อสารที่มุ่งสร้างลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM กันมากขึ้น เพราะต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่แพงกว่าต้นทุนที่ใช้ในการรักษาลูกค้าเก่า เพราะฉะนั้น ในยุคของสื่อดิจิตอลผู้คนจึงเริ่มใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร และเริ่มสนใจในการการแบ่งปันข้อมูลในสังคมกันมากขึ้น จึงเกิดเป็น Social Media ขึ้นในสังคม ทำให้ส่วนผสมทางการตลาดที่มองจากมุมของผู้ผลิต หรือเจ้าของสินค้าเปลี่ยนไป


4 P’s ในยุคดิจิตอล

1. Personalization สามารถนำเสนอความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งในอดีตไม่สามารถทำได้ ทำให้ผู้ผลิตสามารถเรียนรู้จากผู้บริโภคได้ และผู้บริโภคเองก็มีทางเลือกมากขึ้น จากข้อเสนอที่น่าสนใจของผู้ผลิต

2. Participation คือ การให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบสินค้าและผลิตภัณฑ์ โดยการแจกชุดทดลองให้ผู้บริโภคได้ใช้ เพื่อช่วยกันค้นหาจุดอ่อนของสินค้า แล้วแจ้งให้ผู้ผลิตทราบเพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงสินค้าให้ดียิ่งขึ้น

3. Peer-to-Peer คือ การสร้างความน่าเชื่อถือของสินค้า ผ่านทางการบอกกล่าวของบุคคลใกล้ชิด ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคมากกว่าการโฆษณาชวนเชื่อ

4. Predictive Modelling คือ การเรียนรู้พฤติกรรมของค้าอย่างลึกซึ้ง เป็นการศึกษาเพื่อที่จะอ่านใจของผู้บริโภค เพื่อกำหนดสินค้าที่จะวางขายในอนาคต


รวบรวมและเรียบเรียงบทความ ศูนย์การสื่อสารนานาชาติแห่งจุฬาฯ

เครื่องมือส่วนตัว